วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

สวนสันติภาพนางาซากิ(Nagasaki Peace Park)


มีน้ำพุแห่งสันติภาพอยู่ตรงทางเข้า สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหยื่อระเบิดปรมาณูที่กระหายน้ำจนเสียชีวิต มองเห็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน เป็นรูปปั้นผู้ชาย มือขวาชี้ขึ้นไปบนฟ้า สื่อถึงการเตือนให้เห็นภัยคุกคามจากระเบิดปรมาณู แขนข้างซ้ายขนานไปตามแนวราบ อันสื่อความหมายถึงความปรารถนาในสันติภาพของชาวโลก 
จากสถานีรถราง Matsuyama-machi เดินขึ้นเนินไปก็ถึงบริเวณสวนสันติภาพนางาซากิ มีน้ำพุแห่งสันติภาพอยู่ตรงทางเข้า สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหยื่อระเบิดปรมาณูที่กระหายน้ำจนเสียชีวิต มองเห็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน เป็นรูปปั้นผู้ชาย มือขวาชี้ขึ้นไปบนฟ้า สื่อถึงการเตือนให้เห็นภัยคุกคามจากระเบิดปรมาณู แขนข้างซ้ายขนานไปตามแนวราบ อันสื่อความหมายถึงความปรารถนาในสันติภาพของชาวโลก
ภายในสวนมีงานปฏิมากรรมสื่อความหมายถึงการขอสันติภาพแก่โลก ตั้งอยู่หลายแบบ ทั้งแม่ที่กำลังอุ้มลูกน้อย รูปปั้นเด็กชายเด็กหญิง รูปการประสานมือกันของชาวโลก ทุกรูปมีนกพิราบสัญลักษณ์ของสันติภาพปรากฏอยู่ด้วย
แม้ตำนานของเด็กหญิงซาดาโกะ จะไม่เกิดขึ้นที่นี่ แต่ก็ยังมีพวงนกกระเรียนสองพันตัวนำมาแขวนไว้อาลัยเพื่อรำลึกถึงเธอและผู้เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณูทั้งสองลูกในครั้งนั้น
สวนสันติภาพแห่งนี้สร้างทับตำแหน่งที่เคยเป็นคุกเก่า ทุกวันนี้ยังมีร่องรอยของกำแพงให้เห็นอยู่ ยังมีผู้คนนำดอกไม้ไปวางเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้คุมและนักโทษที่ล้วนเสียชีวิตในคราวนั้น ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางที่ระบิดปรมาณูตกลงเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เช่นเดียวกับบาทหลวงและชาวคริสต์ที่กำลังสวดมนต์อยู่ใน “โบสถ์อุราคามิ”(Urakami Cathedral Cherch) ซึ่งโดนระเบิดเข้าไปเต็ม ๆ ความจริงนักบินตั้งใจจะทิ้งระเบิดลงที่อู่ต่อเรือของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อันดัสตรี บริเวณท่าเรือนางาซากิฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือที่ทันสมัยที่สุดของญี่ปุ่นในขณะนั้น แต่ทัศนวิสัยไม่ดี ระเบิดจึงพลาดเป้าตกลงมาข้างโบสถ์แห่งนี้ซึ่งอยู่ห่างออกนอกเมืองมาราว 2 กิโลเมตร แต่กระนั้นตัวเลขของผู้เสียชีวิตก็สูงถึง 70,000 คน บาดเจ็บอีก70,000 คน เพราะระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 ซึ่งใช้แร่พลูโตเนียม นั้นมีอานุภาพร้ายแรงกว่าระเบิดที่ใช้ถล่มฮิโรชิม่าถึง 2 เท่า
การเดินทางไปสวนสันติภาพและโบสถ์อุราคามิ
    -นั่งรถรางสาย 1 หรือ 3 ไปลงที่สถานี Matsuyama-machi จากสวนสันติภาพสามารถเดินไปถึงโบสถ์อุราคามิได้

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มารู้จักกับ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริกัน

นี้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผมอยากให้ทุกคนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นได้รู้จักกัน  ที่ผมไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่ผมไปก็น่าจะเป็นวัดไม่ก็ศาลเจ้าแหละครับ เพราะว่า ศาลาเจ้าที่ญี่ปุ่นทีความต่างแตกกับวัดไทยมาก ทำให้ผมได้รู้สึกถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เอาล่ะงั้นเราก็ไปรู้จักกับ  ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริกัน

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริกัน หรือ ศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว สร้างขึ้นเพื่อบูชาสุนัขจิ้งจอกที่เชื่อว่าเป็นทูตส่งสารของเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว พ..บริเวณนี้อุดมสมบรณ์ไปด้วยน้ำจึงปลูกข้าวได้คุณภาพ และจึงเป็นแหล่งผลิตเหล้าสากาคุณภาพดีเช่นกัน
ความสวยงามของศาลเจ้าฟูชิมิอินาริที่ผมได้ไปเที่ยวมาก็น่าจะเป็น เสาโทริอับซึ่งเป็นเสาที่มีความงดงามมาก

การเดินทางไปศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ


-JR Nare Line ลงสถานี lnari

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เที่ยวญี่ปุ่นกันได้แล้ว สำหรับคนที่ไม่แน่ใจ

ตอนนี้เที่ยวญี่ปุ่นกันได้แล้วนะครับสำหรับคนที่อยากไป จริงๆแล้วก็ได้ยินข่าวมาบ้างแล้วนะครับว่าปลอดภัย แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ จึงรอต่อมาอีก จนถึงวันนี้ก็แน่ใจดีแล้วครับไปเที่ยวญี่ปุ่นกันได้เลย

ผมก็ได้มาอัพblog เป็นประจำนะครับ  เพื่อให้ทุกคนได้รู้เกี่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในญี่ปุ่นกันนะครับ

จะได้เที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งแล้ว เย้ย้ย้
I  Love Japan

วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

สวนสนุกสไตล์ฮอลแลนด์ (Huis Ten Bosch) เที่ยวญี่ปุ่นแบบผ่อนคลาย


ผมจะมาแนะนำสวนสนุกที่ญี่ปุ่น ที่ผมไปเที่ยวมาให้เพื่อนได้อ่านกันครับ ^^ หลังจากที่ผมได้แนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่นต่างๆกันมากมายครับ แต่ผมยังไม่เคยแนะนำสวนสนุกที่ผมไปเที่ยวมา จริงๆ แล้วผมไปเที่ยวสวนสนุกที่ญี่ปุ่นมาหลายที่ แต่ที่ผมอยากแนะนำมากที่สุดก็คือ สวนสนุกสไตล์ฮอลแลนด์ (Huis Ten Bosch)

สวนสนุกเฮาส์ เท็น บอสซ์ ตั้งอยู่ที่ญี่ปุ่น ริมชายฝั่งทะเลใกล้เมืองซาเซะโบะ(Sasebo) แต่ก็ยังอยู่ในจังหวัดนางาซากิ เดินทางมาเที่ยวได้ง่ายจากทั้งฟุกุโอกะและนางาวากิ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เป็นทั้งสวนสนุกและรีสอร์ทสไตล์ฮอลแลนด์ ในอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2535 เพื่อเป็นสถานที่หย่อนใจและรำลึกถึงชาวดัตช์ ซึ่งเป็นชาติในยุโรปที่ญี่ปุ่นยอมให้เข้ามาติดต่อค้าขายด้วยผ่านทางนางาซากิทำคุณประโยชน์ให้กับญี่ปุ่นไว้มากมาย 

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

คนไทยไม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น 100% จริงหรือ !


ช่วงนี้หลายท่านคงจะรู้กันดี ว่า ญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ ทำให้ไม่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน  แล้วระหว่างที่ผมอยู่ที่บ้าน ผมก็ได้ไปเจอข่าวนี้ครับ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น นะครับ

การท่องเที่ยวประเมินผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น พบคนไทยยกเลิกการเดินทางไปญี่ปุ่นทั้งหมด ประเมินค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
16 มี.ค. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เรียกประชุมหน่วยงานในสังกัด และสมาคมท่องเที่ยวของภาคเอกชน พบว่า คนไทยได้ยกเลิกการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ ทั้งการเกิดสึนามิ และการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสี โดยในส่วนที่เดินทางโดยสารการบินไทยจะได้รับเงินค่าตั๋วคืนทั้งหมด ขณะที่ของสายการบินอื่นและค่าวีซ่า อยู่ระหว่างประสานกับสถานทูตญี่ปุ่น และไม่พบคนไทยที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นตกค้างแต่อย่างใด ซึ่งจากการประเมินค่าเสียหายเบื้องต้นในช่วง 3 เดือน สูงถึง 3,000 ล้านบาท